| ||||||
ตอนที่ 2ให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุด | ||||||
1. ธาตุเหล็กในเม็ดเลือดแดงอยู่ในรูปใด ? ก. Ferric iron ข. ferous iron ค. Ferite iron ง. alloy iron | ||||||
2. เกล็ดเลือดมีหน้าที่หลัก คืออะไร ก. สร้างภูมิคุ้มโรค ข. สร้างเม็ดเลือดแดง ค. สร้างเม็ดเลือดขาว ง. ช่วยการแข็งตัวของเลือด | ||||||
3. ซีรัมไม่มีสารชนิดใดเมื่อเทียบกับพลาสมา | ||||||
ก. ภูมิคุ้มกัน ข. เม็ดเลือดแดง ค. เม็ดเลือดและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดรวมทั้งไฟบริน ง. สารอินทรีย์ | ||||||
4. ข้อใดเป็นบัฟเฟอร์ของเลือด ก. กรดคาร์บอนิก ข. ไบคาร์บอเนต ค. เฮปาริน ง. ไฟบริโนเจน | ||||||
5. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของเลือด | ||||||
ก. นำออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ ข. ควบคุมสมดุลย์ของน้ำในร่างกาย ค. ช่วยต่อต้านเชื้อโรค ง. ช่วยนำน้ำย่อยไปสู่ลำไส้
| ||||||
6. แอนตีบอดีชนิดใดพบมากที่สุดในร่างกายในกระบวนการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม | ||||||
ก. ไอจีเอ ข. ไอจีดี ค. ไอจีอี ง. ไอจีจี | ||||||
7.ความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของเลือดประมาณเท่าใด ก. 3-4 ข. 4.5 - 6.5 ค. 7.3 - 7.5 ง. 8.6 - 9.8 | ||||||
8. ข้อใดเป็นบัฟเฟอร์ของเลือด ก. กรดคาร์บอนิก ข. ไบคาร์บอเนต ค. เฮปาริน ง. ไฟบริโนเจน | ||||||
9.ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการแข็งตัวขอเลือดเมื่อเกิดบาดแผล ก. ไฟบริโนเจน ข. โปรทรอมบิน ค. แคลเซียม ง. เฮปาริน | ||||||
10. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. เลือดมีความถ่วงจำเพาะน้อยกว่าน้ำ ข. เลือดมีความถ่วงจำเพาะเท่ากับน้ำ ค. เลือดมีความถ่วงจำเพาะมากกว่าน้ำเล็กน้อย ง. เลือดมีความถ่วงจำเพาะมากกว่าน้ำ 5 เท่า | ||||||
11. การหาปริมาตรของเลือดในร่างกายวิธีใดง่ายที่สุด ก. dilution technique ข. เจาะเลือดออกจากร่างกายสัตว์โดยตรง ค. คำนวณโดยคิดจากเปอร์เซ็นต์น้ำหนักตัว ง. ประเมินโดยใช้ปริมาณปัสสาวะ | ||||||
12. การให้เลือดผิดกลุ่มหรือนำเลือดสัตว์คนละชนิดฉีดให้กันจะเกิดอะไร ? ก. การตกตะกอนของเลือด ข. เลือดไม่รวมกัน ค. เกิดภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ง. เลือดเปลี่ยนสี | ||||||
13. หลอดที่ใช้หาอัตราการตกตะกอนของเลือดคืออะไร ? | ||||||
ก. test tube ข. hematocrit tube ค. sedimentation tube ง. pack cell tube
| ||||||
14. ขบวนการเกิดออกซีฮีโมโกลบิน เรียกว่าอะไร ? | ||||||
ก. oxygenation ข. oxygenatation ค. oxygenatory process ง. oxygenatatory process
| ||||||
15. ธาตุเหล็กในเม็ดเลือดแดงอยู่ในรูปใด ? | ||||||
ก. Ferric iron ข. ferous iron ค. Ferite iron ง. allory iron
| ||||||
16. เกล็ดเลือดมีหน้าที่หลัก คืออะไร | ||||||
ก. สร้างภูมิคุ้มโรค ข. สร้างเม็ดเลือดแดง ค. สร้างเม็ดเลือดขาว ง. ช่วยการแข็งตัวของเลือด
| ||||||
17. P.M.N. คือเม็ดเลือดขาวชนิดใด | ||||||
ก. Neutrophil ข. Basophil ค. lymphocyte ง. Monocyte
| ||||||
18. ข้อใดหมายถึง adidophil | ||||||
ก. Neutrophil ข. eosinophil ค. Monocyte ง. lymphocyte
| ||||||
19. เม็ดเลือดชนิดใดเกี่ยวข้องกับการเกิดการแพ้ของร่างกาย | ||||||
ก. Neutrophi ข. eosinophil ค. Basophil ง. lymphocyte
| ||||||
20. ข้อใดคือเซลล์ที่เจริญไปเป็น Macrophge ได้ | ||||||
ก. Monocyte ข. lymphocyte ค. Basophil ง. acidophil
| ||||||
21. องค์ประกอบที่มากที่สุดของพลาสมาคืออะไร | ||||||
ก. โปรตีน ข. น้ำ ค. ไขมัน ง. สารอนินทรีย์
| ||||||
22. ซีรัมไม่มีสารชนิดใดเมื่อเทียบกับพลาสมา | ||||||
ก. ภูมิคุ้มกัน ข. เม็ดเลือดแดง ค. เม็ดเลือดและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดรวมทั้งไฟบริน ง. สารอินทรีย์
| ||||||
23. ของเหลวส่วนเกินในเนื้อเยื่อเรียกว่าอะไร | ||||||
ก. พลาสมา ข. endolymph ค. perilymph ง. น้ำเหลือง (lymph)
ที่มา/https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=6005348717128830748#editor/target=post;postID=4978695845140198597;onPublishedMenu=allposts;onClosedMenu=allposts;postNum=1;src=link |
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560
ข้อสอบ เรื่องคาร์บอเนต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น